วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ปิกาจู




 พิกะจู (ญี่ปุ่น: Pikachu ピカチュウ ?) เป็นสายพันธุ์ของโปเกมอน โปเกมอนเป็นสิ่งมีชีวิตในบันเทิงคดีที่ปรากฏในวิดีโอเกม รายการโทรทัศน์และภาพยนตร์แอนิเมชัน การ์ดเกม และหนังสือการ์ตูน เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทญี่ปุ่น เดอะโปเกมอนคอมพานี พิกะจูออกแบบโดยอะสึโกะ นิชิดะ และตรวจทานโดยเคน ซุงิโมะริ พิกะจูปรากฏครั้งแรกในเกมเกมโปเกมอนเรดและกรีน และต่อมาปรากฏในเกมโปเกมอน เรดและบลู ซึ่งเป็นเกมแรกในชุดโปเกมอนที่วางจำหน่ายทั่วโลก สำหรับเครื่องเกมบอยรุ่นแรก

        มนุษย์จับและฝึกฝนพิกะจูเพื่อต่อสู้โปเกมอนตัวอื่นเป็นการแข่งขัน เช่นเดียวกับโปเกมอนสายพันธุ์อื่น ๆ พิกะจูเป็นหนึ่งในโปเกมอนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดตัวหนึ่ง เหตุเพราะพิกะจูเป็นตัวละครหลักในอะนิเมะเรื่องโปเกมอน พิกะจูถือว่าเป็นตัวละครหลัก และตุ๊กตาสัญลักษณ์ของแฟรนไชส์โปเกมอน และกลายเป็นสัญรูปในวัฒนธรรมสมัยนิยมญี่ปุ่นเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แนวคิดและการออกแบบ[แก้]

          ซีรีส์โปเกมอนเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1996 พัฒนาโดยเกมฟรีก และจำหน่ายโดยนินเทนโด และนำเสนอสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ เรียกว่า "โปเกมอน" ผู้เล่น หรือ "เทรนเนอร์" สามารถจับมาเลี้ยง ฝึกฝน และใช้ต่อสู้กับโปเกมอนของคนอื่น หรือมีปฏิสัมพันธ์กับโลกของเกม[1][2] พิกะจูเป็นหนึ่งในโปเกมอนที่ออกแบบหลายครั้งโดยทีมพัฒนาตัวละครของบริษัทเกมฟรีก ศิลปินชื่อ อะสึโกะ นิชิดะ เป็นบุคคลหลักที่ออกแบบพิกะจู[3][4] ซึ่งต่อมาได้ตรวจทานโดยเค็น ซุงิโมะริ[5][6] จากคำกล่าวของผู้ผลิตซีรีส์ ซาโตชิ ทะจิริ ชื่อมาจากเสียงภาษาญี่ปุ่นสองเสียงผสมกัน ระหว่าง pika เสียงของประกายไฟฟ้า และ chu เสียงร้องของหนู[7] จูนิชิ มาซุดะ นักพัฒนากล่าวว่า ชื่อของพิกะจูเป็นหนึ่งในโปเกมอนที่สร้างยากที่สุด เนื่องจากเขาพยายามทำให้ดึงดูดทั้งผู้ชมชาวญี่ปุ่นและชาวอเมริกัน[8]

      เมื่อยืนตรง พิกะจูจะสูง 1 ฟุต 4 นิ้ว (0.4 เมตร) พิกะจูเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายหนู และเป็นโปเกมอน "ประเภทไฟฟ้า" ตัวแรกที่ถูกสร้างขึ้น การออกแบบตั้งใจจะให้เกี่ยวพันกับแนวคิดเรื่องไฟฟ้า[9] พิกะจูมีขนสั้นสีเหลือง มีแต้มสีน้ำตาลปกคลุมแผ่นหลังและบางส่วนของหางรูปสายฟ้า มีหูแหลมแต้มด้วยสีดำ และถุงเก็บกระแสไฟฟ้าสีแดงอยู่ที่แก้มสองข้าง สามารถสร้างประกายไฟได้[10] ในโปเกมอน ไดมอนด์ และ เพิร์ล นำเสนอความแตกต่างตามเพศเป็นครั้งแรก พิกะจูเพศเมียจะมีรอยเว้าที่ปลายหางเป็นรูปหัวใจ พิกะจูจะจู่โจมโดยใช้ไฟฟ้าจากร่างกายพุ่งไปสู่คู่ต่อสู้ ในบริบทของแฟรนไชส์ พิกะจูสามารถเปลี่ยนร่าง หรือ "พัฒนาร่าง" (evolve) เป็นไรชู เมื่อประสบกับหินสายฟ้า (Thunderstone) ในซีรีส์ต่อมา ร่างพัฒนาก่อนหน้าเกิดขึ้นครั้งแรก ชื่อว่า "พีชู" (Pichu) ซึ่งจะพัฒนาเป็นพิกะจูหลังจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเทรนเนอร์

          เดิมทีโปเกมอนที่ถูกเลือกให้เป็นตัวละครหลักของสินค้าในแฟรนไชส์คือพิกะจู และปิปปี (Clefairy) ซึ่งปิปปีเป็นตุ๊กตาสัญลักษณ์ที่ทำให้หนังสือการ์ตูน "มีเสน่ห์" (engaging) ขึ้น แม้กระนั้น ในการผลิตซีรีส์แอนิเมชัน พิกะจูกลายเป็นตุ๊กตาสัญลักษณ์ เพื่อต้องการดึงดูดเหล่าผู้ชมเพศหญิงและแม่ของพวกเขา ภายใต้ความเชื่อว่าเขาสร้างสิ่งมีชีวิตให้เป็นภาพทดแทนสัตว์เลี้ยงให้กับเด็ก ๆ สีตัวพิกะจูก็เป็นหนึ่งในปัจจัย เนื่องจากสีเหลืองเป็นแม่สี และเด็ก ๆ มองเห็นง่ายจากระยะไกล และคู่แข่งเดียวที่เป็นตุ๊กตาสัญลักษณ์สีเหลืองเหมือนกันในเวลานั้นคือ วินนี่-เดอะ-พูห์ เท่านั้น[11] แม้ว่าทะจิริจะรู้ว่าตัวละครได้รับความนิยมจากทั้งเด็กชายและเด็กหญิง แต่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของแนวคิดที่ว่าจะให้พิกะจูเป็นตุ๊กตาสัญลักษณ์ และกล่าวว่าเขารู้สึกว่าเด็ก ๆ ชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบพิกะจู ไม่ได้สนใจมุมมองของคนที่มีต่อซีรีส์อยู่แล้ว

ตัวการ์ตูนในปิกาจู

ซาโตชิ

ซาโตชิได้จับโปเกมอนและเป็นมิตรกับเหล่าโปเกมอนมาตลอดเนื้อเรื่องของอะนิเมะ แนวความคิดของเขาเกี่ยวกับการฝึกโปเกมอนคือโปเกมอนแต่ละตัวจะมีการผสมผสาน ระหว่างความเชื่อใจ มิตรภาพ และการถาโถมฝึกฝนเพื่อเอาชนะเคราะห์กรรมที่ต้องเผชิญ ซาโตชิจะต่อสู้กับโปเกมอนที่มีเหมือนกันพิกะจูได้ดีที่สุด กล่าวคือโปเกมอนที่มีความเร็ว หลบหลีกเก่ง และสามารถแสดงท่าโจมตีอันทรงพลังออกมาได้ แต่ซาโตชิก็จะใส่ใจฝึกฝนโปเกมอนที่อยู่กับเขาทุกตัวที่อยู่ในการดูแล ไม่ว่าจะเป็นตัวไหนก็ตาม รูปแบบการต่อสู้ของซาโตชิมักจะเป็นการต่อสู้แบบไม่เหมือนธรรมดาทั่วไปและผิดแผกไปจากกติกาพอสมควร และโปเกมอนของเขาเองก็ปฏิบัติเช่นนี้เช่นกัน



ปิกาจู

พิกะจู โปเกมอนจำพวกหนู มีรูปร่างเตี้ย เล็ก หน้ากลม อาศัยบนพื้นดินเป็นที่น่าจดจำสำหรับความสามารถทางไฟฟ้าของมัน พิกะจูมีขนสั้น สีเหลืองและมีลายสีน้ำตาลที่หลังของมัน ปลายหูสีดำ รวมถึงหางรูปร่างแปลก ซึ่งดูคล้ายสายฟ้า ถ้าเทียบกับร่างพัฒนาและร่างก่อนพัฒนาของมัน มันอาจดูเกี่ยวข้องกับพลัสเซิล ไมนัน และพาจิริสุ เนื่องจากมันดูคล้ายกันมาก พิกะจูเป็นโปเกมอนที่สามารถปล่อยพลังกระแสไฟฟ้าที่มีความรุนแรงหลากหลายผ่านทางแก้มสี แดงของมัน พลังเกี่ยวกับไฟฟ้านี้จะสามารถถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นท่าต่อสู้ต่างๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ในการต่อสู้ และยังสามารถใช้ในการปิ้งย่างผลเบอร์รี่ได้อีกด้วย


เซนิกาเมะ 

เซนิกาเมะ เป็นโปเกมอนเต่า มีสองขา มีจุดเด่นอยู่ที่กระดองแข็งบนหลังของมัน กระดองนี้เกิดขึ้นมาอยู่บนหลังของมันตั้งแต่เกิดแล้ว ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับโปเกมอนเต่าตัวอื่นๆ เช่น โคตัสและเนอีเทิล แต่กระดองของเซนิกาเมะจะมีส่วนใกล้เคียงกับร่างพัฒนามากกว่า เซนิกาเมะพ่นน้ำออกมาจากปากได้ ในตอนแรก มันอาจพ่นได้แค่ฟองสบู่ แต่ด้วยเวลา จะทำให้มันเรียนรู้ท่าพ่นน้ำเช่น Water Gun (ปืนฉีดน้ำ) และ Hydro Pump ได้ เซนิกาเมะยังสามารถเรียนท่ารูปแบบน้ำแข็งอย่าง Ice Beam (ลำแสงแช่แข็ง) และ Blizzard (พายุหิมะ) ได้อีกด้วย



ฟุชิงิดาเนะ

ฟุชิงิดาเนะ เป็นโปเกมอนสัตว์เลื้อยคลานมีลักษณะคล้ายคางคกหรือไดโนเสาร์ ลักษณะเด่นที่จำง่ายคือหัวต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายหัวหอมโทชุคาโซ ที่เป็นปรสิตบนหัวเห็ดของพาราส ซึ่งในที่สุดปรสิตนี้จะลามทั่วทั้ง ตัวกลายเป็นพาราเซ็คท์ หัวต้นไม้นี้จะทำให้ฟุชิงิดาเนะสามารถรับพลังงานเสริมจากแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวันและหัวต้นไม้ก็จะเจริญเติบโตและแข็งแรงขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งเจริญเติบโตจากเมล็ดพืชที่ฝังไว้บนหลังเมื่อตอนเกิด หัวต้นไม้ของฟุชิงิดาเนะกับตัวฟุชิงิดาเนะจะเอื้อประโยชน์ให้กันและกัน ซึ่งไม่เหมือนกับเชื้อรา ฟุชิงิดาเนะมีท่าต่อสู้รูปแบบพืชที่หลากหลาย ละอองผง กลิ่นหอม กลีบดอกไม้ และเมล็ดพืชจะออกมาจากหัวบนหลังของมันได้ ส่วนเถาวัลย์และใบไม้จะออกมาจากส่วนท้องของมัน ซึ่งทำให้เกิดเป็นท่าต่อสู้ต่างๆ ที่หัวบนหลังของฟุชิงิดาเนะอาจมีอะไรบางอย่างยิงออกมาได้ ซึ่งมันจะใช้ดูดกลืนแสงแดด และอาจเป็นการเพิ่มพลังตนเอง เรียกท่านี้ว่า Synthesis (สังเคราะห์แสง) หรืออาจยิงลำแสงทรงพลังที่เรียกว่า Solarbeam (โซล่าร์บีม) ไปที่ศัตรูก็ได้


บัตเตอร์ฟรี

บัตเตอร์ฟรี เป็นโปเกมอนที่ดูคล้ายผีเสื้อ มีขา 4 ขา สีฟ้าซีด ไม่เหมือนแมลงจริงๆ มีอวัยวะคล้ายจมูกสีคล้ายๆ กัน ร่างกายของมันมีสีม่วงอมน้ำเงินเข้ม มีปีกสีขาวมีรอยแต้มคล้ายเส้นเลือดดำ บางครั้งอาจเกิดเป็นบัตเตอร์ฟรีที่มีตัวสีชมพู รอยแต้มบนปีกจะบอกว่าเป็นเพศผู้หรือเพศเมีย มีตาสีแดงขนาดใหญ่ ปีกของบัตเตอร์ฟรีคลุมด้วยเกล็ดบาง ๆ ที่ขาของบัตเตอร์ฟรีมีขนบางๆ ปกคลุมอยู่ ใช้ในการเก็บสะสมน้ำหวาน เกล็ดที่ปีกของบัตเตอร์ฟรีนั้นกันน้ำได้ ซึ่งจะติดกับตัวอย่างหลวมๆ ถ้าบัตเตอร์ฟรีกระพือปีกแรงพอ พวกมันก็จะลอยอยู่บนอากาศได้ บัตเตอร์ฟรีจะรู้สึกหงุดหงิดถ้าสูดฝุ่นเข้าไป


ฮิโตะคาเงะ

ฮิโตะคาเงะ เป็นโปเกมอนสัตว์เลื้อยคลานคล้ายกิ้งก่าซาลาแมนเดอร์?2 ขา และมีบางส่วนคล้ายไดโนเสาร์ โดยเฉพาะ โดยเฉพาะพันธุ์เทอโรพอดอะนิเมะ มังงะ หรือวิดีโอเกมใด ๆ ทั้งสิ้น ฮิโตะคาเงะมีเขี้ยวเล็ก ๆ 4 เขี้ยวอยู่ที่ขากรรไกรบนและล่าง ใต้ท้อง ลำตัวมีสีครีมทั่วไปจนถึงฝ่าเท้า สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นคือเปลวไฟที่ปลายหางที่มีมาแต่เกิด ฮิโตะคาเงะจะเรียนรู้ท่ารูปแบบไฟเพิ่มขึ้นเช่น Flamethrower และ Fire Blast นอกจากนี้มันยังอาจพ่นไฟสีน้ำเงิน หรือท่า Dragon Rage (มังกรพิโรธ) ออกมาได้ด้วย มันยังสามารถใช้ไฟที่หางโจมตีโดยแกว่งมัน หรือใช้กรงเล็บเล็กๆ แต่แหลมข่วนศัตรู แต่อย่างไรก็ตาม ท่าพวกนี้ก็ยังไม่รุนแรงเท่าท่าพ่นไฟที่มันพ่นออกมาเท่าไร

ลิซาโดะ

ลิซาโดะ เป็นโปเกมอนจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน มีสองขาคล้ายกับฮิโตะคาเงะ มีสีผิวเข้มกว่าฮิโตะคาเงะ มีเปลวไฟที่ปลายหาง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของโปเกมอนรูปแบบไฟส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในสายวิวัฒนาการของฮิโตะคาเงะ ที่หัวของมันมีส่วนคล้ายเขาที่ยื่นโปนออกมาด้านหลัง กงเล็บด้านหน้าและหลังนั้นแหลมคมและยาวกว่าของฮิโตะคาเงะ ลิซาโดะสามารถพ่นไฟได้ ไฟที่มันพ่นจะร้อนกว่าของฮิโตะคาเงะ เนื่องจากที่หางมีเปลวไฟขนาดใหญ่กว่านั่นเองมันยังมีกงเล็บขนาดใหญ่ พอที่จะใช้ท่า Slash อันทรงพลังโดยเฉพาะด้วย


ลิซาด้อน


 ลิซาด้อน มีปีกอัน ทรงพลังที่ทำให้มันบินได้เร็วมากจนอาจมองไม่ทัน ถึงแม้ว่าการบินของมันจะเร็วมาก แต่ก็ทำให้มันเครียด มันจึงต้องพักผ่อนหลังจากบินเสร็จ ลิซาด้อนยังอ่อนแอในการกางปีกของมัน และความสามารถเกี่ยวกับการบินของมันยังต้องได้รับการดูแลเป็นเหมือนกับโปเกมอนบินได้ตัวหนึ่ง ลิซาด้อนเป็นโปเกมอนที่ถือว่ามีค่าพลังป้องกันสูงกว่าร่างก่อนหน้าของมัน อย่างไรก็ตาม มีการบอกกล่าวกันเกี่ยวกับคำเตือนเกี่ยวกับปีกของมันที่มีพลังป้องกันเพียงเล็กน้อย ความแข็งแกร่งทางร่างกายของมันเข้ากันกับพลังไฟของมัน และทนต่อความกดอากาศในที่สูงได้ ซึ่งทำให้มันบินอยู่เหนือภูเขาได้ และทนได้แม้กระทั่งความดันที่สูงและความร้อนของภูเขาไฟ ลิซาดงเป็นโปเกมอนที่รักการต่อสู้และใช้เวลามากในการฝึกหรือดูคู่ต่อสู้ จิตใจอันเด็ดเดี่ยวของมันเป็นที่น่าสังเกต เพราะมันไม่เคยพ่นไฟใส่ศัตรูที่อ่อนแอกว่า เมื่อมันโกรธ ไฟที่หางของมันจะกลายเป็นสีฟ้าอ่อน มันพ่นไฟที่ร้อนพอที่จะละลายก้อนหินขนาดใหญ่ มันยังถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดไฟป่า?ยิ่งลิซาดงมีประสบการณ์มากแค่ไหน ไฟที่หางและจากลมหายใจของมันก็จะยิ่งแรงกล้ามากขึ้นเท่านั้น

คาเตอปี

คาเตอปี มีร่างกายคล้ายหนอนผีเสื้อสีเขียว มีรอยแต้มรูปแหวนสีเหลืองติดอยู่ที่ร่างกาย ลักษณะพิเศษที่สังเกตได้ชัดคือหนวดสี ส้มอ่อนบนหัว ลักษณะพิเศษและรอยรูปดวงตาขนาดใหญ่นี้จะทำให้เหยื่อสะดุ้งตกใจ นอกจากนี้ ช่วงวิวัฒนาการของคาเตอปียังใกล้เคียงกับโปเกมอนหนอนแมลงชนิดอื่นเช่น?เคมุสโซ และบีเดิ้ล หนวดของคาเตอปีจะทำให้กลิ่นตัวเหม็นถ้าคาเตอปีตกใจกลัวหรือถูกสัมผัส ซึ่งช่วยปกป้องมันจากผู้ล่า เท้าของคาเตอปีมีลักษณะคล้ายถ้วยช่วยยึดเท้าไว้กับพื้นดิน ซึ่งทำให้คาเตอปีประเมินชนิดของพื้นดินได้ง่ายๆ คาเตอปียังพ่นใยออกจากปากได้เพื่อมัดตัวศัตรู

บีเดิล

บีเดิล เป็นโปเกมอนตัวอ่อนของหนอน ตัวเล็ก สีเหลือง มีร่างกายที่แยกเป็นปล้องๆ มีเท้าสีชมพู และจมูกกลมๆ สีชมพู บีเดิลมีเหล็กในอยู่บนหัวและที่หางของมัน บีเดิลไม่ค่อยมีพลังแกร่งกล้ามากนัก แต่มันสามารถพ่นใยเหนียวๆ เพื่อพันตัวศัตรูได้ บีเดิลยังสามารถใช้เหล็กในของมันทำให้ศัตรูติดพิษได้
                 นี่แค่บางส่วนเท่านั้นนะ เพราะ ณ ปัจจุบันมีโปเกมอนมากกว่า 700 ตัว ทั้งดูการ์ตูนทั้งเล่นเกมยังจำได้ไม่หมดเลย เยอะจริงๆ ^^


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น